โดยปกติในการผ่อนรถ มักจะมีเงินดาวน์จำนวนหนึ่งเป็นเงินก้อนแรกที่จะต้องจ่ายก่อนที่จะซื้อ โดยเงินดาวน์จะไม่ถูกคิดดอกเบี้ย ยิ่งดาวน์ในสัดส่วนที่มาก ยิ่งทำให้สามารถผ่อนชำระรายงวดได้ในจำนวนที่น้อยลง แต่เพื่อความสะดวกในการออกรถโดยไม่ต้องใช้เงิน ทำให้สามารถมีโอกาสออกรถได้ง่าย และรวดเร็วยิ่งขึ้นจึงเกิดเป็นโปรโมชันที่เห็นกันบ่อย ๆ อย่าง ฟรีดาวน์ หรือบางครั้งใช้คำว่า ดาวน์ 0 % ขึ้นมา
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะฟรีดาวน์ได้ !
แม้ฟรีดาวน์จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เช่าซื้อได้รถก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์ฟรีดาวน์ได้ เพราะทางธนาคาร หรือไฟแนนซ์ จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติด้วยความเข้มงวดมากกว่าการซื้อรถแบบปกติ หรือซื้อแบบวางเงินดาวน์ โดยคุณสมบัติของผู้เช่าซื้อโดยทั่วไปจะมี ดังนี้
- รายได้จะต้องเป็น 2 เท่าของยอดผ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฐานเงินเดือนต้องเป็น 2 เท่าของค่างวดผ่อนชำระ
- ไม่ติดเครดิตบูโร ไม่มีประวัติการชำระล่าช้ากับสถาบันเครดิตบูโร หรือเป็นผู้ปลอดภาระหนี้ในระยะเวลาหนึ่ง
- มีที่อยู่ชัดเจน และสามารถติดต่อได้
- อายุงาน ผู้เช่าซื้อจะต้องมีอาชีพการงานที่มั่งคง มีอายุการทำงานในสถานที่นั้นเกิน 3 เดือนขึ้นไป
*เงื่อนไขของผู้เช่าซื้อมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปตามแต่ละธนาคารกำหนด
ข้อควรระวังของ “ฟรีดาวน์ ดาวน์ 0%”
ฟรีดาวน์ หรือดาวน์ 0% อาจดูทันใจ และสะดวก แต่ก็มีข้อเสียที่ควรคำนึงก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ยอดจัดไฟแนนซ์สูง เมื่อไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ ทำให้ยอดขอสินเชื่อสูง หากนำยอดนี้มาคำนวณรวมกับอัตราดอกเบี้ย และอัตราดอกเบี้ยภาษี 7% จะทำให้ยอดผ่อนชำระแต่ละงวดสูงตามไปด้วย
- ยอดผ่อนต่อเดือนสูง ค่างวดผ่อนรถต่อเดือนจะสูงกว่าปกติ เนื่องจากยอดดาวน์รถได้ถูกคำนวณรวมกับยอดจัดเต็มจำนวน และดอกเบี้ย มาเฉลี่ยเป็นค่าผ่อนรถแต่ละเดือน
- ดอกเบี้ยสูง อัตราดอกเบี้ยแบบดาวน์ 0% จะสูงกว่าปกติ โดยจะมีตั้งแต่ร้อยละ 5 ขึ้นไป และหากค้างชำระค่างวดแต่ละเดือนก็จะถูกนำมาทบต่อเนื่อง กลายเป็นดอกเบี้ยสะสมที่จะส่งผลต่อค่างวดผ่อนรถที่สูงขึ้นไปอีก

สนับสนุนบทความโดย : https://www.meecapital.co.th
Leave a Reply