บันทึกการเดินทาง
-
ไม้เบิกนำ เอนอ้า สื่อความหมายธรรมชาติ
ต้นเอนอ้าเป็น “ไม้เบิกนำ” ในการฟื้นฟูป่า สามารถอยู่ได้ในพื้นที่โล่ง และว่างเปล่า มีความอดทนต่อแสงแดด ความต้องการแร่ธาตุ และน้ำน้อย เอนอ้าจะช่วยเตรียมดินที่อุดมสมบูรณ์เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของต้นไม้อื่น ๆ จนกลับคืนเป็นผืนป่าต่อไป โดยอายุของ “ไม้เบิกนำ”มักจะมีอายุสั้นเพื่อย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่าให้ได้ไวที่สุด🌳 เสียสละให้ได้แบบพืชเบิกนำ ปรับตัวให้เก่งแบบเอนอ้า แข็งแรงและอดทนให้ได้อย่างไม้เบิกนำ ขอบคุณผู้สื่อความหมายธรรมชาติเรื่องเอนอ้า : พี่ปู นครนายก Continue reading
-
17/5/2558
มองผ่านหน้าต่างที่หยดน้ำกำลังวิ่งแข่งท้องฟ้าบอกลาด้วยแสงทองทาบทุ่งฝนก็ตกพรำๆคล้ายอัดอั้นสุดทน, ภาพแววตาแลรอยยิ้มต่างเวียนวนปรากฏชัดในความคะนึง. บันทึกการเดินทางสู่ตนเอง. Continue reading
-
ถั่วพูอุ่น
ถั่วพูอุ่น เป็นอาหารของชาวไทใหญ่ สามารถหากินได้ตามถิ่นที่ชาวไทใหญ่อยู่ เช่น แม่ฮ่องสอน พม่า (เรากินที่แม่สอด)ถั่วพูอุ่นทำมาจากถั่วลูกไก่ (Chic pea) ทำเป็นซุปข้น ๆ ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยว รสชาติหวานละมุน นิยมกินเป็นอาหารเช้า โรยหรือกินคู่กับข้าวแรมฟืนทอด คล้ายกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ Continue reading
-
18.5.2017
ฟ้าหลังฝนกระหน่ำในค่ำคืน หลังฟ้าตื่นเกรี้ยวกราดหยาดน้ำรื้น หญิงสาวพบรุ้งงามชั่วข้ามคืน พบชุ่มชื่นอบอุ่นกรุ่นห่วงใย. Continue reading
-
หญิงชรากับหมา และเงา
วันนี้นั่งรถกระป๋องออกจากซอยบ้าน ระหว่างทางมองไปเห็นคุณยายกับหมาหลบร้อนในชายคาผ้าใบของตึกแถว.. มานึกดูคุณยายคนนี้เราเคยเจอแกบ่อย ๆ ปกติเราจะเจอแกกับรถเข็นเก่า ๆ สำหรับเก็บขวด เก็บของเก่าไปขาย ภาพที่ชินตาคือยายเข็นรถไปด้วยความเร็วเท่าที่สังขารในวัยไม่น้อยกว่า 70 ปี พึงทำได้ หลายครั้งมีคนอาสาช่วยคุณยายเข็นขึ้นเนินบ้าง เพราะแค่ลูกระนาด(ที่เอาไว้ลดความเร็วรถ)คุณยายก็เข็นไม่ไปแล้ว แต่แกก็ยังคงเข็นของแกไปเรื่อยทุกวัน.. แถมคุณยายยังใจดีให้อาหารหมาจรแถวนั้นตลอด หมาทุกตัวเห็นยายแล้วส่ายหางเดินตามต้อย ๆ ส่วนเราไม่ได้เห็นแกมาสักพักเพราะไม่ได้ผ่านไป จนวันนี้เจอแกกำลังลูบหมาอยู่ใต้ร่มเงาเล็ก ๆ อดรู้สึกกับภาพที่เห็นไม่ได้..เราไม่รู้ว่าคุณยายทำไมวันนี้ไม่มีรถเข็น..ไม่รู้ว่าชีวิตของคุณยายเป็นยังไงแล้ว ไม่รู้จะมีใครมาไล่แกจากหน้าบ้านไหม ที่แกอยู่ตรงนี้ตั้งใจหลบร้อนหรือยังไง..เป็นห่วง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่มองภาพนี้จนลับสายตาไป แล้วพอวันหน้าเราก็จะลืม ลืมความรู้สึกตอนเห็นภาพนี้ไป จนกว่าจะได้เห็นคุณยายอีกครั้ง.. เส้นบาง ๆ ระหว่างช่วยเหลือ กับก้าวก่ายชีวิตคนอื่น แตกต่างกันอยู่ และเราไม่แน่ใจว่าเรากำลังจะไปอยู่ตรงไหน และการลืมแบบที่เคย ๆ เป็นมามันก็ง่ายมากเสียด้วย. กระป๋องสตอรี่ บันทึกที่ไม่บันเทิง. Continue reading
-
เรื่องเล่าจากเกาะลิบง
ล่าสุดเราไปเที่ยวที่เกาะลิบง จ.ตรัง มา เกาะลิบงเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากฝั่งนัก นั่งเรือประมาณ 20 นาทีก็ถึง คนบนเกาะส่วนใหญ่เป็นชาวประมง และเป็นมุสลิม เกาะลิบงยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเอาไว้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเกาะอื่น ๆ เพราะโชคดีที่พื้นที่เกาะส่วนใหญ่ถือเป็นความดูแลของอุทยานแห่งชาติ และอยู่ในอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ.. อ่ะเกริ่นนำจบละเข้าเรื่อง บังที่เป็นเจ้าของโฮมสเตย์ที่เราพัก(ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย)เล่าให้ฟังว่าบังเกิด(ที่มาของคำว่าบังเกิด!) และเติบโตที่นี่ เมื่อก่อนน้ำจืดไม่ได้มีให้ใช้เยอะนักเพราะยังไม่มีการทำระบบชลประทานใด ๆ มีแค่บ่อเก็บน้ำเล็ก ๆ ไว้เก็บน้ำฝน น้ำจืดจึงเป็นสิ่งที่จำกัดของคนเกาะลิบงสมัยนั้น ถ้าหากใครเคยไปลิบงจะรู้ว่ามันจะมีบ่อน้ำจืดอยู่ในทะเลเป็นจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่เวลาน้ำลงก็จะสามารถเดินลงไปที่บ่อได้ บังเล่าว่าสมัยก่อนในฤดูแล้งบังต้องไปอาบน้ำตรงนั้น เพราะว่าหมู่บ้านไม่มีน้ำจืดเพียงพอให้ใช้ เด็ก ๆ ต้องต่อแถวกันที่บ่อเพื่อที่จะได้ล้างหน้าล้างตา หรืออาบน้ำก่อนไปโรงเรียน บังเล่าจบก็หัวเราะหร็อยแรงตามประสาคนอารมณ์ดีของแก แล้วเล่าต่อว่าสมัยก่อนตรงที่เรานั่งอยู่(โฮมสเตย์)เป็นหาดทรายขาวละเอียดแต่โดนคลื่นกัดเซาะจนปัจจุบันเป็นดินเลน คนที่อยู่อาศัยบนเกาะก็มีไม่มากนักไม่กี่หลังคาเรือน และสัตว์ป่าก็มีอยู่มาก บังเล่าว่าเด็กๆพ่อของบังจะพาไปหาอาหารตามป่า(บนเกาะมีป่าที่มีสัตว์ป่าอยู่จริง ๆ แม้ปัจจุบันจะน้อยลงแล้ว)มีทั้งเก้ง กวาง หมูป่า (บังบอกเหลือแต่หมูป่าแล้วเพราะกินไม่ได้ หัวเราะหร็อยยอีก) เวลาน้ำลงบังจะเดินลัดไปตามชายเลนมันจะมีพืชที่กินได้(จำชื่อไม่ได้แกว่ามันอร่อย)บางทีก็ไปออกทะเลแทงปลาเผากินกันสด ๆ (แววตาบังประกายมากตอนพูดคงเป็นความทรงจำที่แกชอบมาก) สักพักบังหัวเราะเหมือนนึกเรื่องตลกออกเสร็จยิ้มแป้แล้วเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งบังก็ไปกับพ่อเหมือนเคยลัดเลาะไปตามหาดตามชายเลนหาอาหารอะไรไปเรื่อยตามปกติ แต่วันนั้นบังพบสิ่งของประหลาดติดอยู่ที่รากไม้ ของสิ่งนั้นมันมีสีแดงวาวสะท้อนแสงจนบังสะดุดตาเลยหยิบมันมาให้พ่อดูแล้วถามว่ามันคืออะไร แต่พ่อบังก็ไม่รู้เหมือนกัน บังได้แต่สงสัยแต่สุดท้ายก็โยนมันทิ้งไป ตอนหลังพอมีโทรทัศน์ดูบังจึงได้รู้จักของสิ่งนั้นหลังจากที่ผ่านมาหลายปี..มันคือกระป๋องโค้กที่ลอยมาจากประเทศมาเลเซียนั่นเอง บังหัวเราะลงคอแล้วหันไปลูบหัวลูกสาวที่ทำตาโตอย่างอารมณ์ดีแล้วย้ำด้วยสำเนียงถิ่นว่า หมันนน..กระป๋องโค้กนี่แหละ! บันทึกไว้ก่อนลืม ลิบงครั้งที่ 3 Continue reading
About Me
ไปเดินเล่นกัน.